EvBL8e7l3V

ใบที่ 4 ของนำโชค 

ต้นไผ่

ต้นไผ่ (竹, Take) เป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ต้นไผ่เป็นพืชที่แข็งแรง ยืดหยุ่น และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว จึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของ ความอดทน ความยืนหยัด และความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ต้นไผ่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม เนื่องจากต้นไผ่สามารถโค้งงอรับแรงลมได้โดยไม่หัก จึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต

ในเทศกาลและประเพณีญี่ปุ่น ต้นไผ่ยังปรากฏในรูปแบบของเครื่องประดับต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น:

  • คาโดมัตสึ (Kadomatsu, 門松): เป็นการจัดต้นไผ่และต้นสนในช่วงปีใหม่เพื่อเป็นที่พักพิงชั่วคราวของเทพเจ้า เชื่อว่าจะนำความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว
  • ตำนานทาเคโทริ (竹取物語): เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานเจ้าหญิงคางุยะ ที่พบในลำไผ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

เรือสำเภา

เรือสำเภา (宝船, Takarabune) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นสัญลักษณ์ของ ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย และโชคลาภ เชื่อกันว่าเรือสำเภานี้เป็นเรือที่บรรทุกสมบัติและของมีค่า และเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด (七福神, Shichifukujin) มักจะล่องเรือสำเภามาในช่วงปีใหม่เพื่อนำความโชคดีมาสู่ผู้คน

ในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น มีความเชื่อว่า หากวาดภาพเรือสำเภาที่บรรทุกสมบัติและวางไว้ใต้หมอนในคืนแรกของปีใหม่ จะช่วยนำโชคลาภมาให้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ เรือสำเภายังเป็นสัญลักษณ์ของการค้าขายที่รุ่งเรืองและการเดินทางที่ปลอดภัย

ลูกพลับ (柿, Kaki)

ลูกพลับ (柿, Kaki) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นผลไม้ที่มีความหมายเชิงมงคลและเป็นสัญลักษณ์ของ ความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง และการมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ ลูกพลับมักถูกมอบเป็นของขวัญหรือใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงการขอพรให้มีความสุขและความสำเร็จ

นอกจากนี้ ลูกพลับยังมีความเกี่ยวข้องกับฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ผลพลับสุกงอมและมีสีส้มสดใส สีของลูกพลับจึงถูกมองว่าเป็นสีแห่งความอบอุ่น ความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จ ลูกพลับแห้ง (干し柿, Hoshigaki) ก็ถือว่าเป็นผลไม้มงคลเช่นกัน และมักใช้ในพิธีกรรมหรือการเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่

ในบางพื้นที่ของญี่ปุ่น ลูกพลับยังถูกใช้เป็นเครื่องรางป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยมีความเชื่อว่าการแขวนลูกพลับแห้งไว้ในบ้านจะช่วยนำโชคดีมาให้และขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป

น้ำเต้า

น้ำเต้า (瓢箪, Hyōtan หรือ Fukube ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นผลไม้ที่มีลักษณะเฉพาะ มีรูปร่างโค้งเว้าและเปลือกแข็ง เมื่อแห้งแล้วมักถูกนำมาใช้ทำภาชนะหรือเครื่องประดับ ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น น้ำเต้ามีความหมายเชิงมงคลและสื่อถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความโชคดี และการปกป้องคุ้มครอง

น้ำเต้ามักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในหลายบริบท เช่น:

  • สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ดูดโชคลาภ: รูปร่างของน้ำเต้าที่โค้งเว้าเปรียบเสมือนการเก็บรวบรวมโชคลาภและความมั่งคั่ง
  • สัญลักษณ์ของการปกป้อง: ในอดีต น้ำเต้ามักถูกใช้เป็นภาชนะบรรจุน้ำหรือของเหลวในการเดินทาง และยังเชื่อว่ามีน้ำเต้าติดตัวจะช่วยปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย
  • น้ำเต้าของเซียน: เซียนหลายองค์ในตำนานจีนและญี่ปุ่นมักจะถือหรือพกน้ำเต้า เช่น โทกังจิน (Tōkanshin) ที่มักจะพกน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์ของความรู้และพลังเหนือธรรมชาติ

พัด

พัด (扇子, Sensu) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับ โชคลาภ ความราบรื่น และความเจริญรุ่งเรือง พัดญี่ปุ่นถูกใช้ในหลายโอกาส ตั้งแต่การแสดงศิลปะ เช่น การร่ายรำ ไปจนถึงการเป็นของขวัญที่มีความหมายมงคล

ลักษณะเฉพาะของพัดที่สามารถกางออกและพับเก็บได้ ทำให้พัดสื่อถึง การขยายตัวของความโชคดี เปรียบได้กับชีวิตที่ขยายออกไปสู่ความสำเร็จและความรุ่งเรือง พัดยังถูกใช้เป็นเครื่องรางที่นำโชคดีและความสุขมาให้ผู้ครอบครอง

ในด้านศิลปะและพิธีกรรม พัดมักจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรำแบบดั้งเดิม (เช่น รำบงโอโดริ) และในการแสดงศิลปะการต่อสู้บางประเภท เช่น การแสดงโนและคาบูกิ

การมอบพัดเป็นของขวัญจึงถือว่าเป็นการส่งมอบความโชคดี และพัดยังใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานเทศกาล หรือเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้านเพื่อเสริมสร้างโชคลาภ

เพิ่มเติม

เทพจิ้งจอก

จิ้งจอก (狐, Kitsune) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญและมีความหมายหลากหลาย โดยเฉพาะในศาสนาชินโต จิ้งจอกถือเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า อินาริ (Inari, 稲荷神) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการเกษตร การค้า และความอุดมสมบูรณ์ จิ้งจอกจึงมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของ ความเจริญรุ่งเรืองและการปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและข้าว

ในเชิงตำนาน จิ้งจอกญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติ โดยเฉพาะ การแปลงร่าง จิ้งจอกสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์และใช้ความเฉลียวฉลาดในการหลอกลวงหรือปกป้องผู้คน บางครั้งจิ้งจอกอาจถูกมองว่าเป็นสิ่งลึกลับที่มีทั้งด้านบวกและลบ ขึ้นอยู่กับบริบท

คิทสึเนะ ยังมีบทบาทในตำนานหลายเรื่อง โดยเชื่อกันว่า เมื่ออายุยืน จิ้งจอกจะสามารถเติบโตหลายหางได้ (สูงสุดถึงเก้าหาง) ซึ่งยิ่งมีหางมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีพลังเวทมนตร์และความเฉลียวฉลาดมากขึ้น จิ้งจอกเก้าหางเป็นที่เคารพและเชื่อว่ามีพลังมหาศาล

จิ้งจอกจึงเป็นทั้งสัญลักษณ์ของ ความฉลาด มนต์เสน่ห์ และความลึกลับ ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังพบรูปปั้นจิ้งจอกในศาลเจ้าหลายแห่งที่บูชาเทพอินาริ เพื่อขอความคุ้มครองและความเจริญรุ่งเรือง

This entry was posted in ไม่มีหมวดหมู่. Bookmark the permalink.