0bszuXIBCd

ใบที่ 6 ของนำโชค 

เหรียญ 5 เยนใหม่

เหรียญห้าเยน (5 เยน) ของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในเหรียญที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญ เนื่องจากคำว่า “เยน” (円) ในภาษาญี่ปุ่นพ้องเสียงกับคำว่า “ความสัมพันธ์” หรือ “โชคดี” (縁) ดังนั้น เหรียญห้าเยนจึงถือว่าเป็นเหรียญที่นำพาโชคลาภและความสัมพันธ์ที่ดีเข้ามา

สาเหตุที่นิยมใช้เหรียญใหม่มาเป็นเครื่องรางเกิดจากความเชื่อว่า สิ่งใหม่ ๆ จะนำมาซึ่งความสดใสและความเจริญรุ่งเรือง เหรียญ 5 เยนใหม่จึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่และการดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต เหรียญที่มีรูตรงกลางยังสื่อถึงการมองทะลุไปสู่อนาคตและความสำเร็จในการข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ

โดยทั่วไปแล้ว เหรียญ 5 เยนเก่าที่ใช้แล้ว มักถูกใช้ในศาลเจ้าเมื่อผู้คนทำการขอพร โดยการโยนเหรียญลงในกล่องบริจาคเพื่อขอให้มีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งในด้านชีวิตส่วนตัว การเงิน และสุขภาพ

นอกจากนี้ เหรียญห้าเยนใหม่มีรูตรงกลางและมีลวดลายสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคง โดยมีรูปภาพข้าว, น้ำ และเกียร์ ซึ่งสื่อถึงอุตสาหกรรมการเกษตร การประมง และอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่น เหรียญห้าเยนมักใช้เป็นของนำโชค โดยเชื่อกันว่าถ้ามอบให้กันจะเสริมสร้างความสัมพันธ์และนำความโชคดีมา

นกกะเรียน (鶴, Tsuru)

นกกะเรียน (鶴, Tsuru) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความยืนยาว สุขภาพดี และความโชคดี เชื่อกันว่านกกะเรียนสามารถมีอายุยืนถึงพันปี ทำให้มันถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่นำความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุขมาให้

ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น นกกะเรียนกระดาษ (折鶴, โอริซุรุ) หรือการพับนกกะเรียน 1,000 ตัว (千羽鶴, เซ็นบะซุรุ) เป็นการแสดงถึงความหวังและคำอธิษฐานเพื่อสุขภาพและความสุขที่ยาวนาน เชื่อว่าถ้าพับนกกะเรียนกระดาษได้ครบ 1,000 ตัว คำอธิษฐานของผู้พับจะเป็นจริง

ดารุมะ (Daruma)

ดารุมะ (Daruma) เป็นตุ๊กตาญี่ปุ่นที่มีลักษณะเด่นเป็นรูปทรงกลมไร้แขนขา และมักทาสีแดง มีต้นกำเนิดมาจากพระภิกษุที่ชื่อว่า โบะดะฮิดะระมะ (Bodhidharma) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกายเซน ตุ๊กตาดารุมะเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความสำเร็จ โดยคนญี่ปุ่นนิยมวาดตาดวงหนึ่งในตอนที่ตั้งเป้าหมายไว้ แล้วเมื่อเป้าหมายสำเร็จจึงวาดตาอีกข้างหนึ่ง

ในเชิงความเชื่อ ดารุมะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เปรียบเสมือนกับสุภาษิตที่ว่า “ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง” (七転び八起き)

เทพ 7 เซียนญี่ปุ่น

เจ็ดเซียนญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันว่า เทพเจ้าแห่งโชคลาภเจ็ดองค์ (七福神, Shichifukujin) เป็นกลุ่มเทพเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นกราบไหว้เพื่อขอความโชคดี ความมั่งคั่ง และความสุขในชีวิต เทพเจ้าแต่ละองค์มีคุณสมบัติและความเชื่อที่แตกต่างกันไป ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธ ศาสนาชินโต และลัทธิเต๋า นอกจากนี้ บางองค์ยังมาจากวัฒนธรรมจีนและอินเดีย นี่คือเจ็ดเซียนญี่ปุ่นหรือเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภ:

  1. เอะบิซุ (Ebisu, 恵比須) – เทพเจ้าแห่งความเจริญรุ่งเรืองในการประมง การค้าขาย และเกษตรกรรม เป็นเทพเจ้าเพียงองค์เดียวในเจ็ดเทพที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นแท้ ๆ มักถูกวาดภาพในมือถือปลาและเบ็ดตกปลา
  2. ไดโกกุ (Daikokuten, 大黒天) – เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง และการเก็บเกี่ยว มักจะถูกวาดภาพนั่งอยู่บนกระสอบข้าวและถือค้อนทอง
  3. บิชามอนเท็น (Bishamonten, 毘沙門天) – เทพเจ้าแห่งสงครามและการคุ้มครอง ช่วยปกป้องผู้คนจากสิ่งชั่วร้าย และยังเป็นเทพแห่งความมั่งคั่งและความยุติธรรม
  4. เบ็นไซเท็น (Benzaiten, 弁才天) – เทพีแห่งดนตรี ศิลปะ ความรู้ และความงาม มาจากความเชื่อในศาสนาฮินดูของอินเดีย และมักถูกวาดภาพขณะเล่นพิณ
  5. ฟุคุโระคุจู (Fukurokuju, 福禄寿) – เซียนแห่งความยืนยาว ปัญญา และโชคลาภ มีหัวที่ยาวผิดปกติและเป็นสัญลักษณ์ของอายุยืนยาวและสุขภาพดี
  6. จูโรจิน (Jurojin, 寿老人) – เซียนอีกองค์หนึ่งที่เป็นเทพแห่งความยืนยาวและสุขภาพดี มักจะถือไม้เท้าและม้วนกระดาษซึ่งบันทึกอายุขัยของมนุษย์
  7. โฮเต (Hotei, 布袋) – เทพเจ้าแห่งความสุขและความสนุกสนาน มักถูกวาดภาพเป็นชายอ้วนท้วมมีถุงใหญ่ และเชื่อว่าเป็นการจำลองมาจากพระพุทธเจ้าองค์หัวเราะ (Laughing Buddha) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความสุข

เทพเจ้าแห่งโชคลาภเจ็ดองค์นี้เป็นที่นิยมในการกราบไหว้ในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าการขอพรจากเทพเจ้าเหล่านี้จะนำความโชคดี ความสุข และความมั่งคั่งมาสู่ชีวิตในปีใหม่

 

โคมไฟ

โคมไฟ (灯籠, Tōrō) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นสัญลักษณ์ของ ความเจริญรุ่งเรือง การส่องนำทาง และการนำแสงสว่างและโชคดีมาให้ โคมไฟมักจะพบในสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่น วัดและศาลเจ้า รวมถึงในสวนแบบญี่ปุ่นที่มีการจัดวางโคมไฟหินเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง

ในศาสนาพุทธ โคมไฟถือเป็นสัญลักษณ์ของการส่องสว่างทางจิตวิญญาณ และใช้เป็นเครื่องบูชาในพิธีทางศาสนาเพื่อแสดงความเคารพและนำทางให้กับวิญญาณ โคมไฟยังถือว่าเป็นเครื่องหมายของความหวัง ความสงบสุข และการเริ่มต้นใหม่ โดยแสงไฟจากโคมจะช่วยขับไล่ความมืดและสิ่งชั่วร้ายออกไป

โคมไฟญี่ปุ่นมีหลายประเภท ทั้งโคมไฟกระดาษ (和紙灯籠, Washi Tōrō) และโคมไฟหิน (石灯籠, Ishidōrō) ซึ่งมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และมักถูกใช้ในงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลโอบ้ง (お盆) ซึ่งจะมีการจุดโคมไฟเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษ

เพิ่มเติม

เทพเทนงุ (天狗, Tengu

เทพเทนงุ (天狗, Tengu) แม้จะมีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่มีพลังอำนาจทั้งด้านดีและด้านลบ แต่ในด้านความเชื่อเชิงบวกและโชคลางที่ดี เทนงุก็มีบทบาทสำคัญในฐานะ ผู้พิทักษ์และผู้ปกป้อง โดยเฉพาะในบริเวณป่าเขาและธรรมชาติ เทนงุยังถือเป็นสัญลักษณ์ของ ความแข็งแกร่ง ปัญญา และการชำระล้างสิ่งชั่วร้าย ที่สามารถนำโชคลาภมาสู่ผู้คนได้

ความเชื่อด้านโชคลางที่ดีของเทนงุมีดังนี้:

  1. ผู้พิทักษ์ธรรมชาติและศาลเจ้า: เทนงุมักถูกมองว่าเป็นผู้ปกป้องภูเขาและป่าไม้ โดยเฉพาะศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ เทนงุจะคอยเฝ้าดูแลและปกป้องสถานที่เหล่านี้จากผู้ที่ไม่เคารพหรือผู้ที่มารุกราน ชาวบ้านในท้องถิ่นเชื่อว่า การขอพรจากเทนงุ จะได้รับการปกป้องจากอันตรายและสิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะในขณะเดินทางหรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
  2. ผู้ช่วยเหลือด้านศิลปะการต่อสู้: ความเชื่อดั้งเดิมกล่าวว่า เทนงุมีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะการสอนวิชาการต่อสู้ให้กับซามูไรที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ในความเชื่อโชคลาง เทนงุเป็นสัญลักษณ์ของ การป้องกันตัวและการชนะในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค ใครก็ตามที่เคารพบูชาเทนงุมักจะได้รับความสามารถในการปกป้องตนเองจากอันตราย
  3. สัญลักษณ์ของปัญญาและความรู้: แม้ว่าเทนงุจะดูดุร้ายในบางตำนาน แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการ สอนศิลปะและวิทยาการต่าง ๆ ให้กับผู้ที่คู่ควร ผู้ที่แสวงหาความรู้และการพัฒนาตนเองเชื่อว่าเทนงุจะช่วยนำทางให้พวกเขาพบกับปัญญาและความรู้ในระดับที่สูงขึ้น
  4. การขับไล่สิ่งชั่วร้าย: เทนงุยังมีบทบาทในการ ขับไล่สิ่งไม่ดีและสิ่งชั่วร้าย เชื่อกันว่า การนำรูปปั้นหรือภาพวาดเทนงุมาติดไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันสิ่งอัปมงคลและนำโชคดีมาให้ นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ของญี่ปุ่น เทนงุมักถูกใช้ในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อล้างอาถรรพ์และทำให้สถานที่นั้น ๆ ปลอดภัยจากภัยพิบัติ
  5. โชคลาภในการเดินทาง: สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางหรือขึ้นภูเขา เชื่อว่า การขอพรจากเทนงุ จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัย และปกป้องจากอันตรายระหว่างทาง เทนงุในฐานะผู้พิทักษ์ของภูเขาและป่ายังมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังภัยธรรมชาติอีกด้วย
This entry was posted in ไม่มีหมวดหมู่. Bookmark the permalink.